ตระกูลตะขบ

ตะขบเป็นหนึ่งในต้นไม้สกุล Diospyros ตระกูล Ebenaceae มีถิ่นกำเนิดในเอเชียตะวันออก และเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ในประเทศไทยตะขบมีพบ 4-5 ชนิดในไทยตะวันออก 5 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดสระแก้ว จังหวัดปราจีนบุรี จังหวัดฉะเชิงเทรา จังหวัดชลบุรี และจังหวัดระยอง ตะขบมีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Diospyros philippinensis (A. DC.) Gurke เป็นไม้ผลยืนต้นผลัดใบลำต้นเป็นพุ่มตั้งตรง สูงจากพื้นดินได้ตั้งแต่ 1-15 เมตร กิ่งก้านเกลี้ยง แตกกิ่งก้านสาขารอบลำต้นแน่นทึบ ยามแตกยอดใหม่ๆใบเป็นสีแดงแต่จะค่อยๆเปลี่ยนเป็นสีเขียวเมื่อแก่เต็มที่ ใบอ่อนเป็นขนหนาเตอะหยาบ ผลค่อนข้างกลม ออกเป็นพวงละ 4-5 ผล เมื่อเริ่มแก่มีสีเขียวปนเหลือง และรสฝาด ก่อนจะค่อยๆกลายเป็นสีดำหรือน้ำเงินอมม่วง เมื่อสุกจะให้รสหวานกรอบ กรอบ หรือกรอบหวาน มีเมล็ดรูปกลมรี ภายในเนื้อตะขบมีเส้นใยละเอียด เนื้อมีความฉ่ำค่อนข้างมาก ใช้รับประทานสดหรือใช้โรยหน้าขนมแทนเมล็ดแมงลักได้ ขณะที่บางชนิดนิยมนำผลไปทำไวน์ตะขบ ด้วยกลิ่นที่เฉพาะตัวและรสชาติที่กลมกล่อม หรือแม้แต่หมักเป็นเหล้าตะขบก็เป็นที่นิยมไม่แพ้กัน

ทำไมจึงนิยมปลูกตะขบ

  1. ผลไม้เศรษฐกิจ: ตะขบเป็นผลไม้ที่ปลูกขายได้ และสามารถขายได้ราคาดี เพราะตะขบเป็นผลไม้ที่หายากและมีรสชาติที่อร่อย หากพืชสร้างผลต่องปีหลังปลูกได้มากจะได้ราคาแพง

  2. มีคุณค่าทางยา: ตะขบมีสรรพคุณทางยาหลายอย่าง เช่น ช่วยรักษาโรคท้องเสีย แก้บิด บำรุงธาตุ ขับพยาธิ บำรุงครรภ์ รักษาโรคปากเปื่อยปากแตก แก้โรคกระเพาะ และโรคเกี่ยวกับระบบทางเดินอาหาร ผลมีวิตามินซีสูง

  3. ต้นไม้ประดับ: ตะขบเป็นต้นไม้ที่สวยงาม สามารถปลูกเป็นต้นไม้ประดับในสวนได้เป็นอย่างดี แม้ไม่ติดดอกหรือติดผลก็ตาม

  4. ปลูกง่าย: ตะขบเป็นไม้ผลที่ปลูกง่าย สามารถปลูกได้ในดินเกือบทุกประเภท ไม่ต้องดูแลรักษามาก และทนทานต่อสภาพอากาศที่แห้งแล้งได้ดี