กลอย/ว่านกลอยจืด
กลอย เป็นพืชในวงศ์ Araceae มี 2 สายพันธุ์คือ กลอยไทย และกลอยป่า กลอยไทยมีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Typhonium flagelliforme (Lodd.) Blume ส่วนกลอยป่ามีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Typhonium roxburghii Schott กลอยเป็นพืชล้มลุกอายุหลายปี มีเหง้าใต้ดินขนาดใหญ่ มีลักษณะเป็นหัวกลมแบนคล้ายหัวไชเท้า มีรากฝอยจำนวนมากออกจากเหง้า มีใบประกอบแบบนิ้วมือ ใบย่อยมี 3-5 ใบ ลักษณะใบเรียว ปลายใบแหลม ขอบใบหยักเป็นฟันเลื่อยเล็กๆ มีดอกขนาดเล็ก สีเหลืองอ่อน ดอกออกเป็นช่อที่ซอกใบ มีกาบดอกคล้ายกาบหงอนไก่ห่อหุ้มดอกไว้ กลอยเป็นพืชที่พบได้ในเขตร้อนชื้นของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และเอเชียใต้
สรรพคุณของกลอย
- เหง้ากลอยมีสรรพคุณช่วยขับลม แก้ท้องอืด ท้องเฟ้อ ช่วยขับเสมหะ
- หัวกลอยมีสรรพคุณช่วยขับปัสสาวะ แก้อาการปัสสาวะขัด ขับนิ่วในกระเพาะปัสสาวะ
- ใบกลอยมีสรรพคุณช่วยแก้ไข้ แก้หิด แก้ผดผื่นคัน
- น้ำคั้นจากเหง้ากลอยมีสรรพคุณช่วยรักษาโรคกระเพาะอาหาร โรคแผลในกระเพาะอาหาร
- เหง้าแห้งของกลอยมีสรรพคุณช่วยรักษาโรคริดสีดวงทวาร
- หัวกลอยมีสรรพคุณช่วยลดอาการอักเสบ แก้ปวด บวม ช้ำ
- น้ำคั้นจากหัวกลอยมีสรรพคุณช่วยสมานแผล แก้แผลอักเสบ
- รากกลอยมีสรรพคุณช่วยแก้ไข้ แก้โรคมาลาเรีย
ข้อควรระวัง
- ผู้ที่มีอาการแพ้กลอยควรหลีกเลี่ยงการกินหรือสัมผัสกับกลอย
- ผู้ป่วยที่มีอาการท้องร่วงไม่ควรกินกลอย เพราะกลอยมีฤทธิ์ช่วยขับถ่าย
- สตรีมีครรภ์และสตรีให้นมบุตรไม่ควรกินกลอย เพราะกลอยมีฤทธิ์กระตุ้นการบีบตัวของมดลูกและอาจทำให้เกิดการแท้งลูกได้
- เด็กอายุต่ำกว่า 6 ปีไม่ควรกินกลอย
- ไม่ควรกินกลอยในปริมาณมากเกินไป เพราะอาจทำให้เกิดอาการท้องร่วง ปวดท้อง และคลื่นไส้อาเจียนได้