การร้อยไหมยกหางตา ถือเป็นอีกหนึ่งหัตถการทางการแพทย์เพื่อความงามที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก โดยเป็นการใช้เข็มปลายแหลมที่มีขนาดเล็กกว่าเส้นผม แทงเข้าไปบริเวณชั้นผิวหนังแล้วสอดไหมละลายเข้าไปพร้อมดึงรั้งบริเวณหางตาขึ้น เพื่อปรับให้รูปตาและคิ้วยกขึ้น ทำให้ดูสวยงามมากยิ่งขึ้น

การร้อยไหมยกหางตา มีความปลอดภัยสูง เนื่องจากเป็นการใช้เข็มขนาดเล็กแทงเข้าไปบริเวณผิวหนังชั้นลึก ไม่มีการตัดเย็บแผล และไหมที่ใช้ในการร้อยก็เป็นไหมละลาย เมื่ออยู่ใต้ชั้นผิวหนังแล้วจะค่อยๆ สลายตัวภายในเวลา 4-8 เดือน ซึ่งเป็นระยะเวลาที่เพียงพอต่อการสร้างคอลลาเจนบริเวณรอยไหม เมื่อไหมละลายแล้ว คอลลาเจนที่สร้างขึ้นก็จะคงอยู่ในชั้นใต้ผิวหนัง ทำให้รูปตาคงอยู่ได้เป็นเวลานาน

อย่างไรก็ตาม ผลลัพธ์จากการร้อยไหมยกหางตาขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายประการ เช่น ความเชี่ยวชาญของแพทย์, สภาพผิวหนังและกล้ามเนื้อบริเวณที่ร้อยไหม, วิธีการดูแลหลังทำ โดยทั่วไปแล้ว หากได้รับการร้อยไหมจากแพทย์ที่มีประสบการณ์และเชี่ยวชาญ ผลลัพธ์ที่ได้ก็จะออกมาเป็นที่น่าพึงพอใจ

ข้อดีของการร้อยไหมยกหางตา

  • ใช้เวลาในการทำน้อยและพักฟื้นเร็วมาก โดยทั่วไปการร้อยไหมใช้เวลาเพียง 30-60 นาที ไม่ต้องพักฟื้นที่โรงพยาบาลและดำเนินชีวิตประจำวันได้ตามปกติหลังรับการร้อยไหมทันที
  • มีอาการเจ็บหลังการร้อยไหมน้อยมาก คนไข้ส่วนใหญ่รู้สึกเพียงตึงๆ หรือคันๆ บริเวณที่ร้อยไหมเท่านั้น
  • แทบไม่มีรอยแผลเป็น การร้อยไหมไม่จำเป็นต้องมีการตัดแผล และรอยที่เกิดจากเข็มก็มักจะจางหายไปใน 2-3 วัน

ผลข้างเคียงของการร้อยไหมยกหางตา

  • ภาวะแทรกซ้อนทันที หลังทำก็สามารถเกิดภาวะแทรกซ้อนได้ ซึ่งพบได้น้อยมาก เช่น เลือดออก รอยช้ำ อักเสบ เป็นหนองบริเวณที่ร้อยไหม เป็นต้น
  • ภาวะแทรกซ้อนระยะยาว หลังจากทำไปแล้วในช่วงเวลานานๆ ก็อาจเกิดภาวะแทรกซ้อนได้ เช่น เส้นไหมยุบตัว ไหมหัก เคลื่อน หรือไหมปูดออกมา เป็นต้น
  • ผลการรักษาไม่เป็นไปตามคาดหวัง บางครั้งการร้อยไหมไม่ได้ผลตามที่ต้องการ ซึ่งอาจเกิดได้จากหลายสาเหตุ เช่น อายุ คนไข้อายุมากเกินไป กล้ามเนื้อบริเวณรอบดวงตาอ่อนแรงเกินกว่าไหมจะดึงขึ้นได้ ประเภทไหมที่ใช้

โดยปกติหลังจากทำการร้อยไหม แพทย์จะนัดติดตามอาการและผลการรักษาในช่วง 1-2 สัปดาห์แรก เพื่อดูว่ามีอาการผิดปกติใดๆ หรือไม่ หากมีอาการใดๆ ที่ผิดปกติเกิดขึ้น ควรรีบไปพบแพทย์ทันที