- 1. ลดน้ำหนักและไขมัน: ลดน้ำหนักโดยการควบคุมอาหารและออกกำลังกาย แม้กระทั่งน้ำหนักลดเพียงเล็กน้อยก็สามารถช่วยลดขนาดหน้าได้
- 2. ฝึกกล้ามเนื้อใบหน้า: ทำการออกกำลังกายบริหารกล้ามเนื้อใบหน้า เช่น การพูดอักษร “อ” แล้วดันริมฝีปากไปข้างหน้า การเคี้ยวหมากฝรั่ง โดยจะช่วยกระชับกล้ามเนื้อใบหน้า ทำให้รูปหน้าดูชัดและยาวขึ้น
- 3. นอนหงายเสมอ: การนอนตะแคงอาจทำให้ของเหลวไหลเวียนมาที่ใบหน้าได้ ทำให้ใบหน้าบวมในตอนเช้า การนอนหงายจะช่วยป้องกันเรื่องนี้ได้
- 4. นวดหน้า: นวดใบหน้าโดยใช้มือหรือเครื่องนวดเพื่อกระตุ้นการไหลเวียนโลหิต ลดของเหลวใต้ผิวหนัง และช่วยขจัดสารพิษ พร้อมกันนั้นยังช่วยให้ผลิตภัณฑ์ดูแลผิวซึมซาบได้ดียิ่งขึ้น
- 5. ประคบเย็น: ใช้ผ้าขนหนูแช่น้ำเย็นหรือแผ่นประคบเย็นโดยประคบไปรอบๆ ใบหน้าจะช่วยลดการอักเสบและบวมได้
- 6. ดื่มน้ำเยอะๆ: ดื่มน้ำอย่างน้อย 8 แก้วต่อวัน การดื่มน้ำจะช่วยให้ผิวชุ่มชื้นและกระชับ ลดการบวมบนใบหน้า
- 7. ลดอาหารรสเค็ม: การรับประทานอาหารที่มีรสเค็มมากเกินไปสามารถนำไปสู่ภาวะบวมน้ำ ทำให้ใบหน้าดูบวมได้ หลีกเลี่ยงอาหารสำเร็จรูป อาหารแปรรูป และอาหารที่มีส่วนผสมของเกลือ
- 8. หลีกเลี่ยงแอลกอฮอล์และคาเฟอีน: แอลกอฮอล์และคาเฟอีนสามารถทำให้เกิดภาวะขาดน้ำซึ่งสามารถนำไปสู่การบวมของใบหน้าได้
- 9. ได้รับวิตามินและแร่ธาตุที่เพียงพอ: การขาดวิตามินและแร่ธาตุบางชนิดสามารถนำไปสู่ภาวะบวมน้ำได้ เช่น การขาดวิตามินบี6 และแมกนีเซียม
- 10. หลีกเลี่ยงความเครียด: ความเครียดสามารถนำไปสู่ภาวะการเก็บกักน้ำและทำให้ใบหน้าดูบวมได้ การจัดการความเครียดด้วยการออกกำลังกาย การทำสมาธิ และการใช้เทคนิคการผ่อนคลายจะช่วยได้
- 11. ใช้ผลิตภัณฑ์กระชับผิว: ใช้ผลิตภัณฑ์ดูแลผิวที่มีส่วนผสมของสารกระชับผิว เช่น เรตินอล วิตามินซี และกรดไกลโคลิก ใช้ผลิตภัณฑ์ดูแลผิวที่มีส่วนผสมของกรด L-Carnitine
- 12. รับประทานอาหารต้านการอักเสบ: อาหารบางชนิดมีคุณสมบัติต้านการอักเสบซึ่งสามารถช่วยลดการบวมบนใบหน้าได้ อาหารเหล่านี้ได้แก่ ปลา แซลมอน ผักใบเขียว ผลเบอร์รี่ และชาเขียว
- 13. พิจารณาใช้ยา: หากใบหน้าบวมอย่างรุนแรงเป็นเวลานาน อาจจำเป็นต้องพบแพทย์เพื่อรับการวินิจฉัยและการรักษาสาเหตุของการบวม
- 14. ทำศัลยกรรม: หากคุณไม่พอใจกับรูปหน้าแบบธรรมชาติ การศัลยกรรมสามารถช่วยให้ใบหน้าเรียวได้ โดยวิธีที่นิยมที่สุดคือการผ่าตัดตัดกระดูกกราม
Categories: Skincare