แอปเปิ้ล

แอปเปิ้ลเป็นผลไม้ที่มีคุณค่าทางโภชนาการสูง โดยในแอปเปิ้ล 100 กรัม จะให้พลังงาน 52 กิโลแคลอรี มีใยอาหาร 2.4 กรัม วิตามินซี 8.4 มิลลิกรัม และโพแทสเซียม 107 มิลลิกรัม นอกจากนี้ แอปเปิ้ลยังอุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระหลากหลายชนิด เช่น เคอร์ซิติน, ควอเซทิน และโพลีฟีนอล ซึ่งมีส่วนช่วยป้องกันเซลล์ในร่างกายจากความเสียหาย และอาจช่วยลดความเสี่ยงการเกิดโรคเรื้อรังต่างๆ ได้

สรรพคุณของแอปเปิ้ล

  • ช่วยลดความเสี่ยงการเกิดโรคหัวใจและหลอดเลือด
    แอปเปิ้ลมีสารต้านอนุมูลอิสระที่ช่วยป้องกันการเกิดออกซิเดชันของคอเลสเตอรอล LDL (คอเลสเตอรอลชนิดไม่ดี) ซึ่งเป็นสาเหตุของการเกิดโรคหัวใจและหลอดเลือด

  • ช่วยลดความเสี่ยงการเกิดโรคเบาหวานชนิดที่ 2
    แอปเปิ้ลมีไฟเบอร์สูง ซึ่งช่วยชะลอการดูดซึมน้ำตาลเข้าสู่กระแสเลือด จึงช่วยควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด และลดความเสี่ยงการเกิดโรคเบาหวานชนิดที่ 2

  • ช่วยลดความเสี่ยงการเกิดโรคอ้วน
    แอปเปิ้ลมีแคลอรี่ต่ำและมีไฟเบอร์สูง ซึ่งช่วยให้อิ่มนาน โดยไม่ก่อให้เกิดการสะสมไขมันในร่างกาย

  • ช่วยลดความเสี่ยงการเกิดโรคมะเร็ง
    แอปเปิ้ลมีสารต้านอนุมูลอิสระหลายชนิดที่ช่วยปกป้องเซลล์ในร่างกายจากความเสียหาย และอาจช่วยลดความเสี่ยงการเกิดโรคมะเร็งได้

การปลูกแอปเปิ้ล

แอปเปิ้ลเป็นผลไม้เมืองหนาวที่สามารถเจริญเติบโตได้ดีในพื้นที่ที่มีอากาศเย็น ในประเทศไทยสามารถปลูกแอปเปิ้ลได้ในภาคเหนือ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในจังหวัดเชียงใหม่ เชียงราย และแม่ฮ่องสอน ซึ่งมีสภาพอากาศที่เหมาะสมสำหรับการปลูกแอปเปิ้ล เกษตรกรในพื้นที่เหล่านี้จึงนิยมปลูกแอปเปิ้ลเป็นพืชเศรษฐกิจ โดยแอปเปิ้ลที่ปลูกในประเทศไทยส่วนใหญ่จะเป็นสายพันธุ์สีแดงและสีเขียว ซึ่งมีรสชาติหวานอมเปรี้ยวและกรอบ

โดยทั่วไปแล้ว แอปเปิ้ลจะปลูกจากต้นตอ ซึ่งเป็นต้นแอปเปิ้ลที่มีความแข็งแรงและทนทานต่อโรคต่างๆ หลังจากนั้นก็จะนำกิ่งพันธุ์ดีมาเสียบยอด เพื่อให้ได้แอปเปิ้ลที่มีคุณภาพดี แอปเปิ้ลจะใช้เวลาประมาณ 2-3 ปีในการออกผล และสามารถเก็บเกี่ยวผลผลิตได้นานถึง 10-15 ปี