เห็ดนางฟ้า

เห็ดนางฟ้า เป็นเห็ดที่ปลูกง่าย และให้ผลผลิตสูง จึงเป็นที่นิยมปลูกกันอย่างแพร่หลายในประเทศไทย เห็ดนางฟ้านอกจากจะมีรสชาติอร่อยและมีคุณค่าทางโภชนาการสูงแล้ว ยังมีสรรพคุณทางยาอีกด้วย

การเพาะเห็ดนางฟ้า

การเพาะเห็ดนางฟ้า สามารถทำได้ทั้งในโรงเรือนและกลางแจ้ง โดยมีวิธีการดังนี้

  1. การเตรียมวัสดุเพาะ: วัสดุเพาะเห็ดนางฟ้าที่นิยมใช้กัน ได้แก่ ฟางข้าว ขี้เลื่อย และกากอ้อย แต่ละอย่างจะต้องผ่านกระบวนการเตรียมที่แตกต่างกัน โดยฟางข้าวจะต้องนำไปแช่น้ำให้เปื่อย ขี้เลื่อยจะต้องนำไปนึ่งฆ่าเชื้อ ส่วนกากอ้อยจะต้องนำไปหมักกับน้ำหมักชีวภาพ

  2. การเตรียมเชื้อเห็ด: เชื้อเห็ดนางฟ้าสามารถหาซื้อได้จากร้านจำหน่ายเห็ดเพาะพันธุ์ทั่วไป โดยเชื้อเห็ดที่นิยมใช้กัน ได้แก่ เชื้อเห็ดนางฟ้าภูฏาน เชื้อเห็ดนางฟ้าฮังการี และเชื้อเห็ดนางฟ้าขาว

  3. การเพาะเห็ด: นำวัสดุเพาะที่เตรียมไว้ใส่ลงในถุงเพาะเห็ด จากนั้นนำเชื้อเห็ดมาหยอดลงในถุงเพาะเห็ด แล้วรัดปากถุงให้แน่น นำถุงเพาะเห็ดไปวางเรียงในโรงเรือนหรือกลางแจ้งที่เตรียมไว้ โดยให้ถุงเพาะเห็ดตั้งตรงและห่างกันพอสมควร

  4. การดูแลรักษา: ระหว่างที่เห็ดกำลังเจริญเติบโต ต้องหมั่นรดน้ำให้วัสดุเพาะมีความชื้นที่เหมาะสม และต้องควบคุมอุณหภูมิในโรงเรือนหรือกลางแจ้งให้เหมาะสมด้วย โดยอุณหภูมิที่เหมาะสมสำหรับการเจริญเติบโตของเห็ดนางฟ้าอยู่ที่ 25-30 องศาเซลเซียส หลังจากเพาะเห็ดได้ประมาณ 1 เดือน เห็ดนางฟ้าก็จะเริ่มให้ผลผลิต

  5. การเก็บเกี่ยว: เมื่อเห็ดนางฟ้ามีขนาดใหญ่เต็มที่ ก็สามารถเก็บเกี่ยวผลผลิตได้ โดยการตัดเห็ดออกจากถุงเพาะเห็ด เห็ดนางฟ้าสามารถเก็บเกี่ยวผลผลิตได้หลายครั้ง โดยหลังจากเก็บเกี่ยวผลผลิตครั้งแรกแล้ว สามารถนำวัสดุเพาะกลับมาใช้เพาะเห็ดซ้ำได้อีก

  6. โรคและแมลงศัตรูของเห็ดนางฟ้า: โรคและแมลงศัตรูที่พบได้บ่อยในเห็ดนางฟ้า ได้แก่ โรคราน้ำตาล โรคราน้ำเงิน และหนอนแมลงวัน การป้องกันและกำจัดโรคและแมลงศัตรูสามารถทำได้โดยการใช้สารกำจัดเชื้อราและยาฆ่าแมลง