เร่วหอม: สรรพคุณ และ วิธีการปลูก
เร่วหอม หรือ เร่วขมิ้น เป็นพืชล้มลุกขนาดเล็กมักจะปลูกเป็นไม้ประดับ ซึ่งมีหัวอยู่ใต้ดิน นามากจากภาษาอินเดียว่า “อโลวัม” มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Curcuma zedoaria (Christm.) Roscoe ซึ่งจัดอยู่ในวงศ์เดียวกันกับกระชาย ขมิ้น ขิง ข่า และอื่นๆ เนื่องจากเร่วหอมมีกลิ่นหอมที่เป็นเอกลักษณ์จึงได้รับการนำมาใช้เพื่อวัตถุประสงค์ต่างๆ
สรรพคุณของเร่วหอม
- ช่วยให้เจริญอาหาร บำรุงกระเพาะอาหาร
- ช่วยขับลมในลำไส้ แก้ท้องอืด ท้องเฟ้อ ได้ดีมาก
- ช่วยฟอกเลือด แก้เลือดเป็นพิษ ช่วยบำรุงโลหิตให้ไหลเวียนดี
- ขับเสมหะ ลดอาการไอ
- ช่วยละลายไขมันคอเลสเตอรอล
- มีฤทธิ์เป็นยาชูกำลังชั้นดี
- ช่วยบรรเทาอาการปวดประจำเดือน และช่วยขับประจำเดือน
- เป็นยาบำรุงน้ำนมหลังคลอด
การปลูกเร่วหอม
- เลือกหัวพันธุ์ขนาดใหญ่ปราศจากโรค
- เตรียมแปลงปลูกสภาพดินร่วนซุย น้ำไหลคล่อง
- ทำหลุมปลูกห่างกัน 10-15 เซ็นติเมตร
- รองก้นหลุมด้วยปุ๋ยคอกและปุ๋ยสูตร 15-15-15 ประมาณหลุมละ1 กำมือ
- ปลูกเร่วหอม โดยให้หัวพันธุ์วางอยู่บนปุ๋ยรองก้นหลุมแล้วกลบดินให้มิด
- รดน้ำให้ชุ่ม
การดูแลรักษา
- รดน้ำทุกวัน อย่างน้อยวันละครั้งในช่วงฤดูแล้ง และอาจรด 2 ครั้งต่อวันเมื่ออากาศแห้งมาก
- ใส่ปุ๋ยสูตร 15-15-15 โดยใส่หลังปลูกครั้งแรก หรือหากต้นเร่วหอมมีอาการใบเหลือง ควรใส่ปุ๋ยเสริมอาหารเสริมธาตุอาหาร เช่น ธาตุไนโตรเจน หรือธาตุโปแตสเซียม และให้น้ำตามปริมาณที่เหมาะสม
- กำจัดวัชพืชออกจากแปลง
- ป้องกันโรคและแมลง โดยโรคที่ควรเฝ้าระวังคือ โรคราสีม่วงที่ใบ โรคแอนแทรคโนส และโรคเหี่ยวเหลือง ส่วนแมลงที่พึงระวัง ได้แก่ เพลี้ยจั๊กจั่นและแมลงจำพวกเพลี้ยไฟ
- เก็บเกี่ยวหัวเร่วหอมเมื่ออายุประมาณ 10 เดือน โดยสังเกตจากใบที่เริ่มเปลี่ยนเป็นสีเหลือง