สิวอักเสบเป็นปัญหาผิวหนังทั่วไปที่มักเกิดขึ้นในช่วงวัยรุ่นและวัยผู้ใหญ่ สิวอักเสบเกิดจากการอุดตันของรูขุมขนและการอักเสบของต่อมไขมันใต้ผิวหนัง โดยอาจมีลักษณะเป็นตุ่มแดง ตุ่มหนอง หรือซีสต์ขนาดใหญ่ สิวอักเสบสามารถเกิดขึ้นได้ทั่วใบหน้า บริเวณหลัง และหน้าอก
สาเหตุของสิวอักเสบ
สาเหตุหลักของสิวอักเสบ ได้แก่
- ฮอร์โมนเพศชาย: ในช่วงวัยรุ่นและวัยผู้ใหญ่ระดับฮอร์โมนเพศชายจะเพิ่มสูงขึ้น ฮอร์โมนเหล่านี้กระตุ้นให้ต่อมไขมันผลิตน้ำมันมากขึ้น ซึ่งอาจนำไปสู่การอุดตันของรูขุมขนและสิวอักเสบ
- แบคทีเรีย: แบคทีเรียชนิด Propionibacterium acnes (P. acnes) อาศัยอยู่บนผิวหนังตามปกติ แต่เมื่อมีการผลิตน้ำมันมากเกินไป แบคทีเรียเหล่านี้อาจเจริญเติบโตและทำให้เกิดการอักเสบ
- เซลล์ผิวหนังที่ตายแล้ว: เซลล์ผิวหนังที่ตายแล้วอาจอุดตันรูขุมขนและกระตุ้นให้เกิดสิวอักเสบ
- ยาบางชนิด: ยาบางชนิด เช่น สเตียรอยด์ ลิเธียม และยาคุมกำเนิดแบบฉีด อาจกระตุ้นให้เกิดสิวอักเสบได้
- อาหาร: อาหารบางชนิด เช่น นมวัว น้ำตาล และอาหารที่มีดัชนีน้ำตาลสูง อาจกระตุ้นให้เกิดสิวอักเสบได้
- ความเครียด: ความเครียดอาจกระตุ้นให้เกิดสิวอักเสบได้
การดูแลสิวอักเสบ
การดูแลสิวอักเสบสามารถทำได้โดย
- ล้างหน้าอย่างสม่ำเสมอ: ควรล้างหน้าด้วยน้ำอุ่นและสบู่ล้างหน้าที่อ่อนโยน 2 ครั้งต่อวัน เพื่อขจัดสิ่งสกปรก น้ำมัน และเซลล์ผิวหนังที่ตายแล้วออกจากผิวหน้า
- หลีกเลี่ยงการสัมผัสใบหน้า: การสัมผัสใบหน้าบ่อยๆ อาจนำไปสู่การแพร่กระจายของแบคทีเรียและกระตุ้นให้เกิดสิวอักเสบได้
- อย่าบีบหรือแกะสิว: การบีบหรือแกะสิวอาจทำให้เกิดการอักเสบและการติดเชื้อได้
- ใช้ผลิตภัณฑ์รักษาสิว: มีผลิตภัณฑ์รักษาสิวหลากหลายชนิดที่มีจำหน่ายทั้งที่ร้านขายยาและร้านค้าทั่วไป ควรเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมที่เหมาะกับสภาพผิวของตนเอง
- หลีกเลี่ยงการใช้เครื่องสำอางที่ทำให้เกิดสิว: เครื่องสำอางบางชนิดอาจอุดตันรูขุมขนและกระตุ้นให้เกิดสิวอักเสบได้ ควรเลือกใช้เครื่องสำอางที่ไม่มีส่วนผสมที่ทำให้เกิดสิว (non-comedogenic)
- พบแพทย์ผิวหนัง: หากสิวอักเสบไม่ดีขึ้นหลังจากใช้ผลิตภัณฑ์รักษาสิวที่จำหน่ายตามร้านขายยา ควรปรึกษาแพทย์ผิวหนังเพื่อรับการรักษาที่เหมาะสม
การป้องกันสิวอักเสบ
การป้องกันสิวอักเสบสามารถทำได้โดย
- ล้างหน้าอย่างสม่ำเสมอ: ควรล้างหน้าด้วยน้ำอุ่นและสบู่ล้างหน้าที่อ่อนโยน 2 ครั้งต่อวัน เพื่อขจัดสิ่งสกปรก น้ำมัน และเซลล์ผิวหนังที่ตายแล้วออกจากผิวหน้า
- ใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวหน้าที่เหมาะกับสภาพผิว: ควรเลือกใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวหน้าที่เหมาะกับสภาพผิวของตนเอง เพื่อช่วยให้ผิวสุขภาพดีและป้องกันการเกิดสิวอักเสบ
- หลีกเลี่ยงการสัมผัสใบหน้า: การสัมผัสใบหน้าบ่อยๆ อาจนำไปสู่การแพร่กระจายของแบคทีเรียและกระตุ้นให้เกิดสิวอักเสบได้
- รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพ: รับประทานอาหารที่อุดมไปด้วยผัก ผลไม้ และธัญพืช และหลีกเลี่ยงอาหารที่มีน้ำตาลสูง และอาหารที่มีไขมันสูง
- ออกกำลังกายสม่ำเสมอ: การออกกำลังกายสม่ำเสมอช่วยลดระดับความเครียดและช่วยให้ผิวสุขภาพดี
- นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ: การนอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอช่วยให้ร่างกายได้พักผ่อนและฟื้นฟูตัวเอง ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญสำหรับการรักษาสิวอักเสบ