สิวที่หลังรักษาอย่างไร ป้องกันด้วยวิธีไหน

สิวที่หลังเป็นปัญหาผิวหนังที่พบได้บ่อยในทั้งผู้ชายและผู้หญิง สิวที่หลังเกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุ เช่น การเปลี่ยนแปลงของระดับฮอร์โมน ความเครียด การรับประทานอาหารที่มีไขมันและน้ำตาลสูง การสวมใส่เสื้อผ้าที่รัดแน่นเกินไป และการไม่ทำความสะอาดผิวอย่างถูกวิธี

วิธีรักษาสิวที่หลัง
หลายคนอาจมองว่าเป็นสิวเล็กน้อย แต่จริงๆ แล้วสิวที่หลังก็เป็นสิวประเภทหนึ่ง เพราะฉะนั้นต้องรักษาเช่นเดียวกันกับการรักษาสิวบนใบหน้า สิวขึ้นที่ไหนก็สามารถเกิดการอักเสบได้ ยิ่งปล่อยทิ้งไว้นานก็ยิ่งลุกลามรักษายากขึ้น และทิ้งรอยดำรอยแดงให้ดูไม่น่ามอง ขั้นตอนในการรักษาสิวที่หลังสามารถทำได้ทั้งการใช้ยาและการใช้ผลิตภัณฑ์รักษาสิว บางคนอาจต้องใช้ทั้งสองอย่างควบคู่กันเพื่อให้ได้ประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น

  1. ใช้ยาแต้มสิว (Benzoyl Peroxide) ที่จำหน่ายตามร้านขายยาทั่วไป ยาตัวนี้มีฤทธิ์ในการฆ่าเชื้อแบคทีเรีย และละลายหัวสิวอุดตัน แต่ยานี้สามารถทำให้อาการระคายเคืองผิวหนังได้ เช่น ผิวแห้งลอก แดง คัน หรือเป็นขุย ดังนั้นคุณควรใช้ยาตัวนี้ควบคู่กับมอยส์เจอไรเซอร์ เพื่อป้องกันและรักษาภาวะผิวแห้งจากยานี้
  2. Retinoid เป็นตัวยาที่สามารถลดความมันส่วนเกินที่ต่อมไขมันใต้ผิวหนังผลิตออกมา จึงช่วยลดการอุดตันของสิว ลดการเกิดเชื้อแบคทีเรียจากความมันใต้ผิวหนัง และลดการเกิดสิวอักเสบได้ ในช่วงเริ่มใช้ตัวยานี้ประมาณ 6-8 สัปดาห์ อาจทำให้เกิดอาการระคายเคือง เช่น ผิวแห้งลอก แดง คัน หรือเป็นขุย แต่เมื่อผิวปรับตัวเข้ากับตัวยาแล้ว อาการดังกล่าวจะค่อยๆ หายไป
  3. ยาปฏิชีวนะ เป็นยาทาที่ใช้ฆ่าเชื้อแบคทีเรียที่สะสมอยู่บนผิวหนัง บางครั้งอาจใช้ร่วมกับยาทาตัวอื่นเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการรักษา จำเป็นต้องปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกรก่อนทุกครั้งที่ใช้ยาตัวนี้ เพราะอาจเกิดผลข้างเคียง เช่น มีผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้น เช่น ผิวแห้ง ระคายเคือง และแสบร้อน เนื่องมาจากความแรงของยา
  4. ผลิตภัณฑ์รักษาสิวที่จำหน่ายตามร้านขายยาทั่วไป มีผลิตภัณฑ์รักษาสิวหลายประเภทที่สามารถใช้รักษาสิวที่หลังได้ เช่น ผลิตภัณฑ์ที่含有水杨酸(ซาลิไซลิกแอซิด), 含有过氧化苯甲酰(เบนโซอิลเพรอกไซด์), Retinoids, และยาปฏิชีวนะ

วิธีป้องกันสิวที่หลัง

  1. ทำความสะอาดผิวเป็นประจำทุกวันด้วยผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดผิวที่ไม่มีส่วนผสมของน้ำหอมและแอลกอฮอล์
  2. ทายากันแดดก่อนออกแดดทุกครั้ง
  3. หลีกเลี่ยงการสัมผัสใบหน้าและหลังด้วยมือที่ไม่สะอาด
  4. หลีกเลี่ยงการสวมใส่เสื้อผ้าที่รัดแน่นเกินไป
  5. ดื่มน้ำมากๆ และรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพ เช่น ผัก ผลไม้ และธัญพืชทั้งเมล็ด
  6. ลดความเครียด เพราะความเครียดเป็นหนึ่งในสาเหตุหลักของการเกิดสิว
  7. เปลี่ยนชุดชั้นในบ่อยๆ เพื่อป้องกันการสะสมของเชื้อโรคและสิ่งสกปรก
  8. หากสิวที่หลังมีอาการรุนแรงมาก ควรไปพบแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านผิวหนัง