ว่านหางจระเข้ สรรพคุณและการปลูกว่านหางจระเข้

สรรพคุณของว่านหางจระเข้

  • รักษาผิวไหม้แดดและผิวหนังอักเสบ: ว่านหางจระเข้มีฤทธิ์เย็นช่วยบรรเทาอาการแสบร้อนของผิวไหม้แดดและผิวหนังอักเสบ ช่วยสมานแผลและลดการอักเสบของผิวหนังได้
  • รักษาสิวและแผลเป็น: ว่านหางจระเข้มีฤทธิ์ในการยับยั้งการเจริญเติบโตของแบคทีเรียที่ก่อให้เกิดสิว ช่วยลดการอักเสบของสิวและแผลเป็น ทำให้สิวและแผลเป็นหายเร็วขึ้น
  • รักษาอาการท้องผูก: ว่านหางจระเข้มีสารอะโลอิน (aloin) ซึ่งมีฤทธิ์เป็นยาระบาย ช่วยกระตุ้นการบีบตัวของลำไส้ ทำให้ถ่ายอุจจาระได้ง่ายขึ้น
  • ลดน้ำตาลในเลือด: ว่านหางจระเข้มีสารแมนแนน (mannan) ซึ่งมีฤทธิ์ช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือด จึงเหมาะสำหรับผู้ป่วยโรคเบาหวาน
  • เสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกัน: ว่านหางจระเข้มีสารต้านอนุมูลอิสระช่วยเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายให้แข็งแรง ช่วยป้องกันการเกิดโรคต่างๆ

การปลูกว่านหางจระเข้

  1. การเตรียมดิน: ดินที่ใช้ปลูกว่านหางจระเข้ควรเป็นดินร่วนซุย ระบายน้ำได้ดี มีความเป็นกรดเล็กน้อย (pH 6-7)
  2. การเตรียมพันธุ์: สามารถใช้หน่อของว่านหางจระเข้ที่มีอายุประมาณ 6 เดือนขึ้นไป ขุดหน่อออกจากต้นแม่ แล้วนำไปแช่น้ำประมาณ 30 นาทีก่อนปลูก
  3. การปลูก: ขุดหลุมปลูกขนาดใหญ่กว่าหน่อของว่านหางจระเข้เล็กน้อย วางหน่อลงในหลุมให้รากแผ่กระจายออก แล้วกลบดินให้แน่น รดน้ำให้ชุ่ม
  4. การดูแลรักษา: รดน้ำว่านหางจระเข้สัปดาห์ละ 2-3 ครั้ง ใส่ปุ๋ยคอกหรือปุ๋ยหมักทุก 2-3 เดือน พรวนดินรอบโคนต้นเป็นประจำเพื่อกำจัดวัชพืช
  5. การเก็บเกี่ยว: เมื่อว่านหางจระเข้มีอายุประมาณ 1 ปีขึ้นไป ก็สามารถเก็บเกี่ยวได้ โดยการตัดใบที่อยู่โคนต้นออกจากต้น ให้เหลือใบที่อยู่ด้านบนประมาณ 5-6 ใบ