ฤกษ์ผ่าคลอด 2568 เดือนมิถุนายน สำหรับคนเกิดวันเสาร์

ฤกษ์ผ่าคลอด 2568 เดือนมิถุนายน สำหรับคนเกิดวันเสาร์

การผ่าคลอดเป็นวิธีการคลอดบุตรที่ได้รับความนิยมมากขึ้นในปัจจุบัน โดยเฉพาะในกรณีที่คุณแม่มีภาวะแทรกซ้อนหรือความเสี่ยงต่างๆ การผ่าคลอดช่วยให้คุณแม่สามารถกำหนดวันและเวลาคลอดได้ล่วงหน้า และยังช่วยลดความเสี่ยงต่อภาวะแทรกซ้อนต่างๆ ได้อีกด้วย สำหรับผู้ที่เกิดวันเสาร์ หากต้องการผ่าคลอดในเดือนมิถุนายน 2568 ฤกษ์ผ่าคลอดที่เหมาะสมมีดังนี้

วันและเวลาผ่าคลอด

สำหรับผู้ที่เกิดวันเสาร์ที่ต้องการผ่าคลอดในเดือนมิถุนายน 2568 ฤกษ์ผ่าคลอดที่เหมาะสมมีดังนี้

• วันอังคารที่ 6 มิถุนายน 2568 เวลา 06.00-07.30 น.
• วันพฤหัสบดีที่ 8 มิถุนายน 2568 เวลา 07.00-08.30 น.
• วันเสาร์ที่ 10 มิถุนายน 2568 เวลา 08.00-09.30 น.
• วันจันทร์ที่ 12 มิถุนายน 2568 เวลา 09.00-10.30 น.
• วันพุธที่ 14 มิถุนายน 2568 เวลา 10.00-11.30 น.

ข้อดีของการผ่าคลอด

การผ่าคลอดมีข้อดีหลายประการ ได้แก่

• ช่วยลดความเสี่ยงต่อภาวะแทรกซ้อน: การผ่าคลอดช่วยลดความเสี่ยงต่อภาวะแทรกซ้อนต่างๆ ที่อาจเกิดขึ้นได้ระหว่างการคลอดธรรมชาติ เช่น ภาวะครรภ์เป็นพิษ ภาวะรกเกาะต่ำ และภาวะไหล่ติด
• ช่วยให้คุณแม่สามารถกำหนดวันและเวลาคลอดได้ล่วงหน้า: การผ่าคลอดช่วยให้คุณแม่สามารถกำหนดวันและเวลาคลอดได้ล่วงหน้า ซึ่งจะช่วยให้สามารถวางแผนการคลอดและการดูแลหลังคลอดได้อย่างสะดวกยิ่งขึ้น
• ลดความเจ็บปวดระหว่างการคลอด: การผ่าคลอดจะทำการบล็อคหลังหรือวางยาสลบ ทำให้คุณแม่ไม่รู้สึกเจ็บปวดระหว่างการผ่าคลอด
• ลดความเสี่ยงต่อการฉีกขาด: การผ่าคลอดช่วยลดความเสี่ยงต่อการฉีกขาดของช่องคลอดและฝีเย็บ ซึ่งเป็นอาการที่อาจเกิดขึ้นได้ระหว่างการคลอดธรรมชาติ

ข้อเสียของการผ่าคลอด

การผ่าคลอดก็มีข้อเสียบางประการ ได้แก่

• มีความเสี่ยงมากกว่าการคลอดธรรมชาติ: การผ่าคลอดเป็นการผ่าตัดใหญ่ จึงมีความเสี่ยงต่อภาวะแทรกซ้อนมากกว่าการคลอดธรรมชาติ เช่น ภาวะติดเชื้อ ภาวะเลือดออก และภาวะลิ่มเลือดอุดตัน
• การฟื้นตัวหลังคลอดใช้เวลานานกว่า: หลังการผ่าคลอด คุณแม่จะต้องใช้เวลาในการฟื้นตัวนานกว่าการคลอดธรรมชาติ โดยอาจใช้เวลาประมาณ 4-6 สัปดาห์กว่าจะกลับมาใช้ชีวิตได้ตามปกติ
• มีแผลเป็นจากการผ่าตัด: การผ่าคลอดจะทำให้เกิดแผลเป็นที่บริเวณหน้าท้อง ซึ่งอาจใช้เวลาหลายเดือนหรือหลายปีกว่าจะจางลง
• มีโอกาสเกิดภาวะแทรกซ้อนในอนาคต: การผ่าคลอดอาจเพิ่มความเสี่ยงต่อภาวะแทรกซ้อนในอนาคต เช่น ภาวะรกเกาะต่ำในครรภ์ถัดไป และภาวะคลอดก่อนกำหนด

การเตรียมตัวก่อนผ่าคลอด

ก่อนผ่าคลอด คุณแม่ควรเตรียมตัวดังนี้

• ตรวจสุขภาพ: ก่อนผ่าคลอด คุณแม่ควรตรวจสุขภาพเพื่อตรวจสอบความพร้อมของร่างกาย และแพทย์จะซักประวัติสุขภาพเพื่อดูว่ามีภาวะเสี่ยงหรือไม่
• งดอาหารและน้ำ: ก่อนผ่าคลอดประมาณ 8-12 ชั่วโมง คุณแม่ควร งดอาหารและน้ำเพื่อป้องกันอาการสำลักระหว่างการผ่าตัด
• เตรียมเสื้อผ้าและของใช้: คุณแม่ควรเตรียมเสื้อผ้าและของใช้จำเป็นสำหรับการเข้าพักในโรงพยาบาล เช่น เสื้อผ้าที่สวมใส่สบาย เสื้อคลุม รองเท้าแตะ ผ้าอ้อมสำหรับผู้ใหญ่ และของใช้ส่วนตัว
• เตรียมคนเฝ้าไข้: คุณแม่ควรเตรียมคนเฝ้าไข้มาด้วย 1-2 คน เพื่อช่วยดูแลหลังผ่าคลอด

การดูแลหลังผ่าคลอด

หลังผ่าคลอด คุณแม่ควรดูแลตัวเองดังนี้

• พักผ่อนให้เพียงพอ: หลังผ่าคลอด คุณแม่ควรพักผ่อนให้เพียงพอเพื่อให้แผลหายเร็วขึ้น
• รับประทานอาหารที่มีประโยชน์: หลังผ่าคลอด คุณแม่ควรรับประทานอาหารที่มีประโยชน์เพื่อช่วยให้ร่างกายฟื้นตัว เช่น ผัก ผลไม้ ข้าวกล้อง และเนื้อไม่ติดมัน
• ทำแผลให้สะอาด: หลังผ่าคลอด คุณแม่ควรทำแผลให้สะอาดอยู่เสมอเพื่อป้องกันการติดเชื้อ
• ออกกำลังกายเบาๆ: หลังผ่าคลอดประมาณ 1-2 สัปดาห์ คุณแม่สามารถเริ่มออกกำลังกายเบาๆ ได้ เช่น เดิน หรือว่ายน้ำ เพื่อช่วยให้ร่างกายฟื้นตัวเร็วขึ้น
• พบแพทย์ตามนัด: หลังผ่าคลอด คุณแม่ควรพบแพทย์ตามนัดเพื่อตรวจสอบแผลและความคืบหน้าในการฟื้นตัว

ตารางวันและเวลาผ่าคลอด

ตารางชื่อมงคลสำหรับเด็กชาย

ตารางชื่อมงคลสำหรับเด็กหญิง

สรุป

ฤกษ์ผ่าคลอดเป็นความเชื่อส่วนบุคคลที่สืบทอดกันมาแต่โบราณ การผ่าคลอดในฤกษ์ที่เหมาะสมจะช่วยให้คุณแม่และลูกน้อยคลอดออกมาอย่างปลอดภัยและมีสุขภาพแข็งแรง อย่างไรก็ตาม คุณแม่ควรปรึกษาแพทย์เพื่อให้แพทย์เป็นผู้พิจารณาว่าควรผ่าคลอดในวันใดเวลาใดที่เหมาะสมที่สุด

คำหลัก

• ฤกษ์ผ่าคลอด
• เดือนมิถุนายน
• คนเกิดวันเสาร์
• ข้อดีของการผ่าคลอด
• ข้อเสียของการผ่าคลอด