ร่องใต้ตา เกิดขึ้นจากหลายสาเหตุ ทั้งจากรูปหน้า กรรมพันธุ์ และพฤติกรรมในชีวิตประจำวันที่เข้ามามีผลต่อการเกิดร่องใต้ตา
สาเหตุที่พบบ่อยของการเกิดร่องใต้ตา:
- อายุที่มากขึ้น: เมื่ออายุมากขึ้น ผิวหนังบริเวณรอบดวงตาก็จะสูญเสียความยืดหยุ่นและความเต่งตึงไป ทำให้เกิดริ้วรอยและร่องลึกขึ้นมา
- พันธุกรรม: คนที่มีประวัติครอบครัวเป็นร่องใต้ตา ก็มีแนวโน้มที่จะเกิดร่องใต้ตาง่ายกว่าคนอื่น
- สีผิว: โดยทั่วไปแล้ว คนผิวขาวและผิวบาง จะมีแนวโน้มที่จะเกิดร่องใต้ตาได้มากกว่าคนผิวเข้ม
- การสูบบุหรี่และดื่มแอลกอฮอล์: การสูบบุหรี่และการดื่มแอลกอฮอล์เป็นสาเหตุหลักๆ ที่ทำให้เกิดร่องใต้ตา โดยสารนิโคตินในบุหรี่จะไปทำลายเส้นใยคอลลาเจนและอีลาสตินในผิวหนังบริเวณรอบดวงตา ทำให้ผิวหนังไม่สามารถยืดหยุ่นได้เท่าที่ควร และเกิดร่องใต้ตาได้ง่ายขึ้น ส่วนแอลกอฮอล์จะทำให้ร่างกายขาดน้ำ ซึ่งก็เป็นอีกสาเหตุที่ทำให้เกิดร่องใต้ตาได้
- การนอนหลับไม่เพียงพอ: การนอนหลับไม่เพียงพอเป็นสาเหตุหลักๆ อีกข้อที่ทำให้เกิดร่องใต้ตา เมื่อเราอดนอน ร่างกายจะผลิตสาร cortisol ซึ่งเป็นฮอร์โมนแห่งความเครียดออกมา ซึ่งฮอร์โมนตัวนี้จะไปทำลายเส้นใยคอลลาเจนและอีลาสตินในผิวหนังบริเวณรอบดวงตา ทำให้ผิวหนังหย่อนคล้อยและเกิดร่องใต้ตาได้ง่ายขึ้น
- การขยี้ตาเป็นประจำ: การขยี้ตาเป็นประจำจะทำให้ผิวหนังบริเวณรอบดวงตาเกิดการระคายเคืองและอักเสบ ซึ่งกระตุ้นให้เกิดการสร้างสารฮิสตามีนที่ทำให้ผิวหนังเกิดอาการบวมและบวมแดง สารฮิสตามีนยังมีส่วนทำให้เลือดบริเวณใต้ผิวหนังไหลเวียนได้ช้าลง จึงทำให้เกิดรอยคล้ำใต้ตาและร่องใต้ตาได้
- กรรมพันธุ์: หากคนในครอบครัวของคุณมีร่องใต้ตา คุณก็อาจมีแนวโน้มที่จะเกิดร่องใต้ตาเช่นกัน นั่นเป็นเพราะว่ายีนของเรา บางส่วนกำหนดโครงสร้างของใบหน้า รวมถึงบริเวณรอบดวงตาของคุณ
การรักษาร่องใต้ตา มีดังนี้
- การใช้ครีมบำรุงรอบดวงตา: ครีมบำรุงรอบดวงตาสามารถช่วยลดเลือนร่องใต้ตาและริ้วรอยได้ โดยเลือกใช้ครีมที่มีส่วนผสมของวิตามินซี, วิตามินอี, กรดไฮยาลูโรนิก และเรตินอยด์
- การฉีดฟิลเลอร์: การฉีดฟิลเลอร์เป็นวิธีการรักษาที่ค่อนข้างรวดเร็วและเห็นผลได้ทันที โดยสารฟิลเลอร์จะไปเติมเต็มร่องใต้ตาให้เรียบเนียนขึ้น แต่ผลของการฉีดฟิลเลอร์นั้นจะไม่ถาวร โดยจะอยู่ได้ประมาณ 6-12 เดือน
- การผ่าตัดศัลยกรรม: การผ่าตัดศัลยกรรมเป็นวิธีการรักษาที่ถาวร โดยการผ่าตัดศัลยกรรมจะช่วยยกกระชับผิวหนังบริเวณรอบดวงตาและกำจัดถุงใต้ตาออกไป ผลของการผ่าตัดศัลยกรรมจะอยู่ได้ในระยะเวลานานหลายปี
นอกจากนี้ยังมีวิธีการดูแลตัวเองเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดร่องใต้ตา เช่น
- นอนให้เพียงพออย่างน้อย 7-8 ชั่วโมงต่อคืน
- หลีกเลี่ยงการสูบบุหรี่และดื่มแอลกอฮอล์
- รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ต่อผิวหนัง เช่น ผัก ผลไม้ และธัญพืช
- หลีกเลี่ยงการถูหรือขยี้ตา
- สวมแว่นกันแดดทุกครั้งที่ออกไปข้างนอก