ร่องใต้ตาเกิดจากอะไร
ร่องใต้ตาหรือร่องน้ำตานั้น เกิดขึ้นเนื่องจากหลายสาเหตุ โดยมีสาเหตุแบ่งออกเป็น 2 ปัจจัยใหญ่ๆ คือ
1. ปัจจัยทางโครงสร้างและพฤติกรรม
- อายุที่เพิ่มขึ้น ทำให้ผิวหนังบางลงและสูญเสียความยืดหยุ่น จึงเกิดเป็นริ้วรอยและร่องต่างๆ รวมถึงร่องใต้ตาด้วย
- สภาพผิวที่บางหรือผิวแห้ง
- พฤติกรรมที่ทำให้เกิดความเครียด เช่นการสูบบุหรี่ การอดนอน และการขยี้ตาแรงๆ
- โครงสร้างของใบหน้าที่มีแนวโน้มทำให้เกิดร่องใต้ตาง่าย เช่น ผู้ที่มีเบ้าตาลึกหรือมีใต้ตาลึก
2. ปัจจัยทางพันธุกรรม
- ผู้ที่อยู่ในกลุ่มชาติพันธุ์เอเชีย มักมีแนวโน้มที่จะเกิดร่องใต้ตาได้ง่ายกว่าเมื่อเทียบกับกลุ่มชาติพันธุ์อื่นๆ เนื่องจากชาวเอเชียมักมีโครงสร้างของใบหน้าที่เบ้าตาค่อนข้างลึก และผิวใต้ตาที่บางกว่า
- ผู้ที่มีประวัติคนในครอบครัวมีร่องใต้ตา ก็มักมีโอกาสที่จะมีร่องใต้ตาเช่นเดียวกัน
การรักษาและแก้ไขร่องใต้ตา
วิธีการรักษาและแก้ไขร่องใต้ตา ให้กลับมาดูดีเต่งตึงขึ้นได้นั้น มีหลายวิธีด้วยกัน โดยสามารถแบ่งแยกออกเป็น 2 วิธีหลักๆ ดังนี้
1. การรักษาและแก้ไขแบบไม่ต้องผ่าตัด
ซึ่งวิธีนี้เป็นวิธีที่นิยมและได้รับความสนใจมากที่สุด เนื่องจากเป็นวิธีที่ไม่ต้องผ่าตัด ไม่ต้องพักฟื้น มีความปลอดภัย และเหมาะสำหรับทุกคนที่ต้องการแก้ไขปัญหา โดยวิธีการรักษาและแก้ไขแบบไม่ต้องผ่าตัดน้ั้นมีมากมายหลายวิธี อาทิ
- การฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา เป็นวิธีที่นิยมอย่างมาก เนื่องจากเห็นผลลัพธ์ที่ชัดเจนโดยทันทีหลังฉีด และมีระยะเวลาของผลลัพธ์ที่ยาวนานกว่าวิธีอื่น
- การฉีดโบท็อกซ์ใต้ตา นอกจากจะช่วยลดและป้องกันริ้วรอยต่างๆ ที่เกิดขึ้นที่บริเวณรอบดวงตาได้แล้ว ยังสามารถช่วยยกกระชับหนังตา ให้ดูตึงขึ้นได้ด้วย
- การใช้ครีมหรือเซรั่มที่มีส่วนผสมอย่างวิตามินเอ วิตามินซี และเรตินอล บำรุงบริเวณรอบดวงตาก็สามารถช่วยฟื้นฟูและกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน ทำให้ผิวบริเวณใต้ดวงตาดูเรียบเนียน เต่งตึงมากยิ่งขึ้น
- การนวดและประคบใต้ตาเป็นประจำ ก็เป็นอีกหนึ่งวิธีที่ช่วยฟื้นฟูและกระตุ้นการไหลเวียนของเลือดใต้ผิวหนัง เป็นการลดอาการบวมและลดรอยดำคล้ำใต้ตาไปในตัวด้วย
2. การรักษาและแก้ไขแบบต้องผ่าตัด
วิธีการรักษาและแก้ไขร่องใต้ตาแบบผ่าตัดนี้ โดยทั่วไปแล้วจะทำในกรณีที่ร่องใต้ตาหรือรอยเหี่ยวย่นที่เกิดขึ้นมีลักษณะที่ลึกมาก แพทย์จึงจำเป็นต้องผ่าตัดยกกระชับ โดยวิธีนี้ต้องใช้เวลาในการพักฟื้นนานกว่าวิธีที่ไม่ต้องผ่าตัด