ผักเคล หรือที่ในประเทศไทยรู้จักกันในชื่อ ผักคะน้าพันธุ์ฝรั่ง เป็นผักที่ได้รับความนิยมในการรับประทานกันอย่างแพร่หลาย มีถิ่นกำเนิดจากแถบเมดิเตอร์เรเนียน ใบมีลักษณะหยิกและย่น มีสีเขียวเข้ม จัดเป็นผักใบเขียวที่มีคุณค่าทางโภชนาการสูงสุดชนิดหนึ่ง เพราะอุดมไปด้วยวิตามินและแร่ธาตุต่างๆ อีกทั้งยังมีสารต้านอนุมูลอิสระในปริมาณสูง จึงเป็นผักที่ได้รับการขนานนามว่า “ราชินีผักใบเขียว”
คุณค่าทางโภชนาการของผักเคล
ผักเคลอุดมไปด้วยสารอาหารที่มีประโยชน์ต่อร่างกายอย่างมากมาย ได้แก่
- วิตามินซี: ผักเคลเป็นผักที่มีวิตามินซีสูงมาก โดยมีปริมาณวิตามินซีสูงกว่าส้มถึง 2 เท่า ซึ่งช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกัน ป้องกันโรคหวัดและไข้หวัดใหญ่ และช่วยให้ผิวพรรณสดใส
- วิตามินเค: มีส่วนช่วยในการแข็งตัวของเลือดและช่วยรักษาแผล
- วิตามินเอ: มีส่วนช่วยบำรุงสายตาและช่วยป้องกันโรคตาต่างๆ รวมถึงโรคต้อกระจกและโรคจอประสาทตาเสื่อม
- วิตามินอี: ช่วยป้องกันการเกิดโรคหัวใจและโรคมะเร็ง
- สารต้านอนุมูลอิสระ: ผักเคลอุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระ เช่น แคโรทีนอยด์ และฟลาโวนอยด์ ซึ่งมีฤทธิ์ช่วยต่อต้านอนุมูลอิสระ ลดความเสี่ยงในการเกิดโรคมะเร็ง และโรคเรื้อรังต่างๆ
สรรพคุณของผักเคล
ผักเคลมีสรรพคุณทางยาที่หลากหลาย ได้แก่
- ช่วยบำรุงสายตาและป้องกันโรคตาต่างๆ
- ช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกัน ป้องกันการติดเชื้อโรค
- ช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือด เหมาะสำหรับผู้ป่วยโรคเบาหวาน
- ช่วยลดความดันโลหิต
- ช่วยลดระดับคอเลสเตอรอลในเลือด ลดความเสี่ยงในการเกิดโรคหัวใจ
- ช่วยยับยั้งการเกิดโรคมะเร็ง
- ช่วยบำรุงผิวพรรณให้สดใส เปล่งปลั่ง
- ช่วยป้องกันการเกิดโรคกระดูกพรุน ด้วยปริมาณแคลเซียมสูง
- ช่วยป้องกันการเกิดโรคโลหิตจาง ด้วยปริมาณธาตุเหล็กสูง
- ช่วยป้องกันการเกิดโรคตับ
วิธีปลูกผักเคล
ผักเคลเป็นผักที่ปลูกง่ายสามารถปลูกได้ในเมืองไทย โดยมีขั้นตอนการปลูกดังนี้
- เตรียมดิน: ควรเลือกใช้ดินที่ร่วนซุย มีความเป็นกรดเป็นด่างเล็กน้อย (pH 5.5-6.5)
- ปลูกเมล็ด: ให้ปลูกเมล็ดลงในดินที่เตรียมไว้ โดยให้มีระยะห่างระหว่างเมล็ดประมาณ 8-10 เซนติเมตร และลึกประมาณ 1 เซนติเมตร รดน้ำให้ชุ่ม
- การดูแลรักษา: เมื่อต้นกล้าเริ่มงอกขึ้นมา ควรรดน้ำอย่างสม่ำเสมอ และใส่ปุ๋ยหมักหรือปุ๋ยคอก เมื่อต้นกล้ามีอายุประมาณ 1 เดือน ให้ย้ายกล้าไปปลูกในแปลงปลูกโดยให้มีระยะห่างระหว่างต้นประมาณ 30-40 เซนติเมตร
- การเก็บเกี่ยว: ผักเคลสามารถเก็บเกี่ยวได้เมื่อต้นมีอายุประมาณ 60-75 วัน หลังจากปลูก โดยให้ตัดใบจากด้านล่างของต้นขึ้นมา