ทุเรียน

ทุเรียนเป็นผลไม้ที่มีกลิ่นเฉพาะตัวและรสชาติที่หวานมัน จึงเป็นที่นิยมกันอย่างมากในประเทศไทยและอีกหลายประเทศในแถบเอเชีย นอกจากนั้น ทุเรียนยังมีสรรพคุณทางยาที่หลากหลายอีกด้วย

สรรพคุณของทุเรียน

  • ช่วยบำรุงร่างกาย โดยเฉพาะผู้ที่กำลังฟื้นฟูร่างกายหลังจากเจ็บป่วยหรือผ่าตัด
  • ช่วยบำรุงผิวพรรณให้เปล่งปลั่งสดใส
  • ช่วยแก้อาการท้องผูก
  • ช่วยแก้อาการท้องร่วง
  • ช่วยแก้อาการอาหารไม่ย่อย
  • ช่วยแก้อาการคลื่นไส้ อาเจียน
  • ช่วยฆ่าเชื้อแบคทีเรียและเชื้อราบางชนิด
  • ช่วยลดความเสี่ยงของการเกิดโรคมะเร็งบางชนิด

การปลูกทุเรียน

ทุเรียนเป็นผลไม้ที่สามารถปลูกได้ในประเทศไทยได้ทั่วทุกภาค โดยเฉพาะในพื้นที่ที่มีอากาศร้อนชื้น เช่น ภาคตะวันออก ภาคกลาง และภาคใต้ ทุเรียนสามารถปลูกได้ทั้งในดินและในกระถาง แต่การปลูกในดินจะให้ผลผลิตที่ดีกว่า

ขั้นตอนการปลูกทุเรียน

  1. การเตรียมดิน
    ดินที่เหมาะสำหรับการปลูกทุเรียนควรเป็นดินร่วนปนทรายที่มีความเป็นกรดเป็นด่างอยู่ระหว่าง 5.5-6.5 ควรขุดหลุมปลูกขนาด 1x1x1 เมตร แล้วใส่ปุ๋ยหมักหรือปุ๋ยคอกลงไป

  2. การปลูก
    นำต้นกล้าทุเรียนลงปลูกในหลุมปลูก โดยให้รากของต้นกล้าอยู่ลึกกว่าระดับดินประมาณ 10 เซนติเมตร แล้วกลบดินให้แน่น

  3. การให้น้ำ
    ทุเรียนเป็นผลไม้ที่ต้องการน้ำมาก ควรให้น้ำอย่างสม่ำเสมอโดยเฉพาะในช่วงฤดูแล้ง

  4. การใส่ปุ๋ย
    ควรใส่ปุ๋ยให้กับต้นทุเรียนทุกๆ 2 เดือน โดยใช้ปุ๋ยสูตร 15-15-15 หรือ 16-16-8 สำหรับต้นทุเรียนที่ยังไม่ติดผล และใช้ปุ๋ยสูตร 9-25-25 หรือ 12-24-12 สำหรับต้นทุเรียนที่ติดผลแล้ว

  5. การกำจัดวัชพืช
    ควรหมั่นกำจัดวัชพืชบริเวณโคนต้นทุเรียนอย่างสม่ำเสมอ เพื่อป้องกันการแย่งอาหารและน้ำจากต้นทุเรียน

  6. การป้องกันกำจัดโรคและแมลงศัตรูพืช
    โรคและแมลงศัตรูพืชที่มักพบในทุเรียน ได้แก่ โรครากเน่า โรคใบจุด โรคผลเน่า โรคราสีชมพู และแมลงวันทอง ควรหมั่นตรวจสอบต้นทุเรียนอย่างสม่ำเสมอและป้องกันกำจัดโรคและแมลงศัตรูพืชอย่างถูกวิธี

  7. การเก็บเกี่ยว
    ทุเรียนสามารถเก็บเกี่ยวได้เมื่อผลมีขนาดใหญ่เต็มที่และเปลือกมีสีเหลืองอมเขียว โดยทั่วไปจะใช้เวลาประมาณ 100-120 วันหลังจากดอกบาน