ทับทิม สรรพคุณ และการปลูกทับทิม

ทับทิม

ทับทิม (Pomegranate) เป็นผลไม้ในวงศ์ Lythraceae มีถิ่นกำเนิดในแถบตะวันออกกลางและเอเชียใต้ ปัจจุบันปลูกในหลายพื้นที่ทั่วโลก ทับทิมมีเปลือกแข็งสีแดงอมม่วง ภายในมีเนื้อเป็นเมล็ดสีแดงฉ่ำ รสชาติหวานอมเปรี้ยว

สรรพคุณของทับทิม

ทับทิมมีสรรพคุณทางยาหลายประการ เช่น

  • ต้านอนุมูลอิสระ ช่วยป้องกันเซลล์จากความเสียหายที่เกิดจากอนุมูลอิสระ ช่วยลดความเสี่ยงของการเกิดโรคเรื้อรังต่างๆ เช่น โรคหัวใจ โรคมะเร็ง และโรคสมองเสื่อม
  • ลดระดับคอเลสเตอรอลและไตรกลีเซอไรด์ ช่วยป้องกันการเกิดโรคหัวใจและหลอดเลือด
  • ลดความดันโลหิต ช่วยป้องกันการเกิดโรคหัวใจและหลอดเลือด
  • ลดการอักเสบ ช่วยบรรเทาอาการข้ออักเสบและโรคอื่นๆ ที่มีการอักเสบ
  • ช่วยในการย่อยอาหาร ช่วยลดอาการท้องผูกและท้องเสีย
  • บรรเทาอาการปวดประจำเดือน ช่วยลดอาการปวดท้อง ปวดหลัง และอาการ PMS อื่นๆ
  • เสริมสร้างภูมิคุ้มกัน ช่วยปกป้องร่างกายจากการติดเชื้อต่างๆ

การปลูกทับทิม

ทับทิมสามารถปลูกได้ในสภาพอากาศแบบร้อนชื้น ทนต่อดินเค็มและดินที่มีความเป็นด่างสูง ควรเลือกปลูกในพื้นที่ที่มีแสงแดดจัดและมีการระบายน้ำดี ทับทิมสามารถปลูกได้ทั้งแบบเพาะเมล็ดและการตอนกิ่ง

การปลูกทับทิมแบบเพาะเมล็ด

  1. นำเมล็ดทับทิมมาแช่นน้ำอุ่น 2-3 ชั่วโมง
  2. เตรียมดินโดยผสมดินร่วน ปุ๋ยคอก และทรายในอัตรา 3:2:1
  3. หว่านเมล็ดทับทิมลงในแปลงเพาะ แล้วกลบด้วยดินบางๆ
  4. รดน้ำให้ชุ่ม และหมั่นดูแลให้อากาศถ่ายเทได้ดี
  5. เมื่อต้นกล้ามีอายุได้ประมาณ 6-12 เดือน สามารถย้ายลงปลูกในแปลงปลูกได้

การปลูกทับทิมแบบการตอนกิ่ง

  1. เลือกกิ่งพันธุ์ทับทิมที่สมบูรณ์แข็งแรง
  2. ทำแผลที่กิ่งพันธุ์โดยกรีดเปลือกออกเป็นวงแหวน กว้างประมาณ 1-2 เซนติเมตร แล้วลอกเปลือกออก
  3. นำวัสดุปลูก เช่น ขุยมมะพร้าวหรือเพอร์ไลท์ มาหุ้มแผล แล้วรัดด้วยพลาสติกใส
  4. รดน้ำที่วัสดุปลูกให้ชุ่ม และหมั่นดูแลให้อากาศถ่ายเทได้ดี
  5. เมื่อรากงอกออกมาจากวัสดุปลูกแล้ว สามารถตัดกิ่งพันธุ์ออกจากต้นแม่ และนำไปปลูกในแปลงปลูกได้

การดูแลรักษาทับทิม

ทับทิมเป็นไม้ผลที่ดูแลรักษาง่าย ไม่ค่อยมีโรคและแมลงรบกวน ควรหมั่นรดน้ำให้ชุ่มและใส่ปุ๋ยตามระยะเวลาที่เหมาะสม ตัดแต่งกิ่งเพื่อให้ต้นโปร่งรับแสงแดดได้ทั่วถึง และกำจัดวัชพืชที่ขึ้นในแปลงปลูกเพื่อป้องกันการแพร่กระจายของโรคและแมลง