การฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาเป็นวิธีหนึ่งในการปรับรูปลักษณ์ของบริเวณใต้ตาให้ดูอ่อนเยาว์ขึ้น โดยการฉีดสารเติมเต็มเข้าไปบริเวณใต้ตาเพื่อเติมเต็มริ้วรอยและร่องลึกให้ตื้นขึ้น ในความเป็นจริงแล้วสามารถฉีดฟิลเลอร์บริเวณอื่นได้ เช่น แก้ม ขมับ ฯลฯ แต่บริเวณใต้ตาเป็นบริเวณที่มีความบางและมีความเสี่ยงสูง จึงต้องใช้ฟิลเลอร์ชนิดที่ปลอดภัยและไม่เป็นอันตราย

เป็นอันตรายไหม

โดยทั่วไปการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาถือว่าปลอดภัย เพราะสารเติมเต็มที่ใช้ฉีดมีลักษณะคล้ายกับสารที่พบตามธรรมชาติในร่างกาย อย่างไรก็ตาม หากฉีดโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ มีประสบการณ์สูง และฉีดในปริมาณที่เหมาะสม จะทำให้มีความเสี่ยงต่อการเกิดอันตรายน้อยมาก

วิธีฉีดอย่างไรไม่ให้เป็นก้อน

  1. เลือกแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ: ควรเลือกแพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญและประสบการณ์ในการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาโดยเฉพาะ เนื่องจากต้องมีความรู้ ความเข้าใจในรายละเอียดของโครงสร้างบริเวณใต้ตาอย่างดี เพื่อให้สามารถฉีดฟิลเลอร์ได้อย่างแม่นยำและปลอดภัย

  2. ทดสอบสารเติมเต็มก่อนฉีดจริง: ควรสอบถามแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเพื่อทดสอบฟิลเลอร์บริเวณอื่นที่ไม่ใช่ใบหน้า เนื่องจากอาจเกิดอาการแพ้ได้ เพื่อให้แน่ใจว่าไม่มีอาการแพ้หรือผลข้างเคียงที่ไม่พึงประสงค์อื่นๆ

  3. ระมัดระวังปริมาณการฉีด: ปริมาณยาที่แพทย์ฉีดนั้นสำคัญมากจะต้องฉีดฟิลเลอร์ในปริมาณที่เหมาะสม ไม่น้อยหรือมากจนเกินไป หากฉีดฟิลเลอร์มากเกินไป อาจเกิดอาการบวม ช้ำ และอาจทำให้เกิดการอักเสบติดเชื้อได้ หรือหากฉีดน้อยเกินไป ก็อาจจะไม่เห็นผล หรือเห็นผลได้ไม่ชัดเจน

  4. ดูแลหลังการฉีด: หลังที่ฉีดฟิลเลอร์ควรประคบเย็นบริเวณที่ฉีด หลีกเลี่ยงการกระแทกรุนแรง และหลีกเลี่ยงการนอนคว่ำอย่างน้อย 2 สัปดาห์ งดการออกกำลังกายหนัก โดยใช้เวลาประมาณ 7-10 วันบริเวณที่ฉีดจะยุบตัวลงเข้าที่ แล้วฟิลเลอร์จะเริ่มมีประสิทธิภาพเต็มที่

  5. นัดตรวจติดตามผล: ควรกลับไปพบทันตแพทย์ตามนัดทุกครั้ง เพื่อตรวจดูผลการฉีดและติดตามอาการผิดปกติ หรือผลข้างเคียงต่างๆ