ข้าวเหนียวดำ/ข้าวก่ำ สรรพคุณ และการปลูกข้าวเหนียวดำ
ข้าวเหนียวดำ หรือ ข้าวก่ำ เป็นพืชวงศ์หญ้าที่มีความสำคัญทางโภชนาการและวัฒนธรรมสูงในหลายภูมิภาคของโลก โดยเฉพาะอย่างยิ่งในประเทศไทย ข้าวเหนียวดำมีคุณสมบัติพิเศษที่โดดเด่นคือเมล็ดข้าวมีสีดำหรือม่วงเข้ม ซึ่งมีแหล่งปลูกหลักในภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือของไทย
สรรพคุณของข้าวเหนียวดำ
อุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระ: ข้าวเหนียวดำมีสารต้านอนุมูลอิสระสูง เช่น แอนโธไซยานิน ซึ่งช่วยปกป้องเซลล์จากความเสียหายที่เกิดจากอนุมูลอิสระ ช่วยลดความเสี่ยงของการเกิดโรคเรื้อรัง เช่น โรคมะเร็งและโรคหัวใจ
ช่วยควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด: ข้าวเหนียวดำมีดัชนีน้ำตาลต่ำ (GI) ซึ่งหมายความว่าร่างกายจะดูดซึมกลูโคสจากข้าวเหนียวดำได้อย่างช้าๆ ช่วยให้ระดับน้ำตาลในเลือดคงที่และลดความเสี่ยงของการเกิดโรคเบาหวานชนิดที่ 2
ช่วยลดระดับคอเลสเตอรอลในเลือด: สารต้านอนุมูลอิสระในข้าวเหนียวดำช่วยลดระดับคอเลสเตอรอลชนิดเลว (LDL) และเพิ่มระดับคอเลสเตอรอลชนิดดี (HDL) ซึ่งช่วยลดความเสี่ยงของการเกิดโรคหัวใจและหลอดเลือด
บำรุงสายตา: ข้าวเหนียวดำอุดมไปด้วยลูทีนและซีแซนทีน ซึ่งเป็นสารอาหารที่ช่วยบำรุงสายตา ลดความเสี่ยงของการเกิดโรคจอประสาทตาเสื่อมและต้อกระจก
ช่วยลดน้ำหนัก: ข้าวเหนียวดำมีไฟเบอร์สูง ซึ่งช่วยให้รู้สึกอิ่มนานขึ้น ลดความอยากอาหารและช่วยควบคุมน้ำหนัก
การปลูกข้าวเหนียวดำ
การเตรียมดิน: ข้าวเหนียวดำเจริญเติบโตได้ดีในดินร่วนปนทรายที่มีความอุดมสมบูรณ์สูง มีการระบายน้ำดี
การเลือกพันธุ์ข้าว: มีพันธุ์ข้าวเหนียวดำหลายพันธุ์ให้เลือก ควรเลือกพันธุ์ข้าวที่เหมาะกับสภาพภูมิอากาศและดินในพื้นที่
การเพาะกล้า: ก่อนที่จะปลูกข้าวเหนียวดำ ต้องทำการเพาะกล้า โดยแช่เมล็ดข้าวเหนียวดำในน้ำอุ่นประมาณ 12 ชั่วโมง จากนั้นนำไปเพาะในแปลงเพาะกล้าหรือถาดเพาะกล้า
การย้ายกล้า: เมื่อกล้าข้าวเหนียวดำมีอายุประมาณ 25-30 วัน หรือมีใบ 3-4 ใบ สามารถย้ายกล้าไปปลูกในนาข้าวได้
การดูแลรักษา: การดูแลข้าวเหนียวดำนั้นคล้ายกับการดูแลข้าวทั่วไป โดยต้องให้น้ำอย่างสม่ำเสมอ ใส่ปุ๋ยตามคำแนะนำ และกำจัดวัชพืช
การเก็บเกี่ยว: ข้าวเหนียวดำจะใช้เวลาประมาณ 120-130 วันในการเจริญเติบโต เมื่อข้าวเหนียวดำสุก เมล็ดข้าวจะมีสีดำหรือม่วงเข้ม สามารถเก็บเกี่ยวข้าวเหนียวดำได้โดยการใช้เคียวเกี่ยวหรือเครื่องเกี่ยวข้าว
การหลังเก็บเกี่ยว: หลังจากเก็บเกี่ยวข้าวเหนียวดำแล้ว ต้องนำข้าวไปตากให้แห้งและทำความสะอาดก่อน จากนั้นสามารถนำข้าวเหนียวดำไปสีเป็นข้าวสารหรือรับประทานเป็นข้าวกล้องได้