ข่า: สมุนไพรที่มีประโยชน์มากมาย ทั้งเป็นอาหารและยารักษาโรค

ข่า เป็นพืชสมุนไพรที่มีประโยชน์มากมายทั้งต้น โดยสามารถใช้เป็นอาหารได้หลายชนิด และในขณะเดียวกันก็สามารถใช้เป็นยารักษาโรคได้ด้วย

ข่ายังอุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระที่ช่วยปกป้องร่างกายจากความเสียหายที่เกิดจากอนุมูลอิสระและโรคร้ายแรงต่าง ๆ รวมทั้งมะเร็ง นอกจากนั้นข่ายังอุดมไปด้วยวิตามินและแร่ธาตุจำนวนมาก รวมทั้งวิตามินซี วิตามินอี วิตามินเค ธาตุเหล็ก และแคลเซียม

สรรพคุณของข่า

ข่ามีสรรพคุณทางยาที่ช่วยรักษาอาการต่าง ๆ ได้มากมาย โดยเฉพาะอาการเกี่ยวกับระบบทางเดินอาหารและระบบทางเดินหายใจ เช่น

  • ช่วยย่อยอาหาร แก้ท้องอืดท้องเฟ้อ จุกเสียดแน่นท้อง อาการลำไส้แปรปรวน และขับลม

  • แก้อาการคลื่นไส้ อาเจียน

  • ลดอาการอักเสบของทางเดินอาหาร เช่น โรคกระเพาะอาหารและโรคลำไส้อักเสบเรื้อรัง

  • ช่วยให้เจริญอาหาร

  • บรรเทาอาการบวมน้ำ

  • แก้ปวดท้องประจำเดือน

  • ขับเหงื่อ

  • แก้ไอ บรรเทาอาการเสมหะ และขับเสมหะ

นอกจากนี้ ข่ายังมีสรรพคุณช่วยลดไขมันในเลือด ลดความดันโลหิต และป้องกันโรคหัวใจได้ด้วย

การปลูกข่า

  • การปลูกข่า เริ่มด้วยการเตรียมดินโดยไถพรวนดินให้ลึกประมาณ 20-30 ซม. จากนั้นตากดินประมาณ 5-7 วัน แล้วจึงใส่ปุ๋ยคอกหรือปุ๋ยหมักลงไปประมาณ 2-3 ตันต่อไร่ และโรยปูนขาวประมาณ 200-300 กิโลกรัมต่อไร่ เมื่อเตรียมดินเสร็จแล้ว ทำแปลงปลูก โดยยกแปลง

กว้างประมาณ 1-1.2 เมตร ยาวประมาณ 20-25 เมตร เว้นทางเดินระหว่างแปลงประมาณ 50 ซม.

  • ใช้เหง้าแก่สมบูรณ์ ปราศจากโรคและแมลงศัตรูพืช นำไปตัดแต่งเหง้าให้มีขนาดประมาณ 5-7 ซม. แล้วนำไปแช่ในสารละลายป้องกันเชื้อรา ประมาณ 10-15 นาที จากนั้นนำขึ้นมาพักให้สะเด็ดน้ำ

  • ปลูกข่าโดยการวางเหง้าลงในหลุมปลูก โดยให้ยอดเหง้าอยู่ด้านบนและโผล่พ้นดินเล็กน้อย กดดินรอบ ๆ เหง้าให้แน่น ปลูกห่างกันประมาณ 30 ซม.

  • หลังจากปลูกข่าแล้ว รดน้ำให้ชุ่ม แล้วคลุมด้วยฟางหรือหญ้าแห้ง เพื่อรักษาความชื้นในดินและป้องกันวัชพืช เมื่อต้นข่าเริ่มแทงยอดอ่อน ให้ใส่ปุ๋ยเคมีสูตร 15-15-15 ประมาณ 100-150 กิโลกรัมต่อไร่ โดยแบ่งใส่ 2 ครั้ง ครั้งแรกใส่ประมาณ 1-2 เดือนหลังปลูก และครั้งที่สองใส่ประมาณ 3-4 เดือนหลังปลูก

  • สำหรับการให้น้ำ ควรให้น้ำอย่างสม่ำเสมอ โดยเฉพาะในช่วงฤดูแล้ง แต่ไม่ควรให้น้ำมากเกินไปจนดินแฉะ เพราะอาจทำให้รากเน่าได้

  • ในการป้องกันกำจัดโรคและแมลงศัตรูพืช ควรหมั่นตรวจสอบแปลงปลูกข่าอยู่เสมอ และหากพบโรคหรือแมลงศัตรูพืช ให้รีบกำจัดโดยใช้วิธีที่เหมาะสม