การปลูกฝรั่ง
ฝรั่งพันธุ์พื้นเมืองในท้องถิ่นมีลักษณะแตกต่างกันไปตามแต่ละแหล่ง เช่น ฝรั่งบางกอก เนื้อหนา ฉ่ำน้ำ หวานกรอบ ฝรั่งอีสาน ผลค่อนข้างเล็ก รสชาติหวานอมเปรี้ยว และฝรั่งเขียว ผลค่อนข้างใหญ่ เนื้อน้อย เปรี้ยวคม
ก่อนปลูก
ฝรั่งเป็นไม้ที่ปลูกได้ในทุกสภาพดิน แต่เหมาะกับดินร่วนปนทรายที่มีอินทรียวัตถุอุดมสมบูรณ์ ดินต้องระบายน้ำได้ดี ควรเป็นที่โล่ง มีแดดส่องตลอดวัน pH ของดินควรอยู่ระหว่าง 5.5-7.0
การเตรียมดิน
ก่อนปลูกควรไถดินให้ลึกประมาณ 20-30 ซม. ตากดินทิ้งไว้ประมาณ 15 วัน จากนั้นให้ใส่ปุ๋ยคอกหรือปุ๋ยหมักลงไปประมาณ 1-2 กิโลกรัมต่อต้น คลุกเคล้าให้เข้ากับดิน แล้วรดน้ำให้ชุ่ม
การปลูก
ระยะปลูกที่เหมาะสมคือ 3×3 เมตร หรือ 4×4 เมตร ขุดหลุมปลูกกว้างและลึกประมาณ 50 เซ็นติเมตร รองก้นหลุมด้วยปุ๋ยคอกหรือปุ๋ยหมักประมาณ 1-2 กิโลกรัม คลุกเคล้าให้เข้ากับดิน แล้วนำต้นกล้าลงปลูก กดดินให้แน่น รดน้ำให้ชุ่ม
การดูแลรักษา
- รดน้ำสม่ำเสมอ โดยเฉพาะในช่วงฤดูแล้ง ต้องรดน้ำทุกวัน
- ใส่ปุ๋ยบำรุงต้น โดยใช้ปุ๋ยสูตร 15-15-15 หรือ 20-20-20 ประมาณ 1-2 กิโลกรัมต่อต้น ใส่ทุกๆ 3-4 เดือน
- ตัดแต่งกิ่งเพื่อกำจัดกิ่งที่ไม่จำเป็นออก และเพื่อให้ต้นฝรั่งมีทรงพุ่มที่สวยงาม
- กำจัดวัชพืชเป็นประจำเพื่อป้องกันการแย่งอาหารจากต้นฝรั่ง และเพื่อลดการสะสมของโรคและแมลงศัตรูพืช
การเก็บเกี่ยว
ฝรั่งจะเริ่มให้ผลผลิตหลังจากปลูกไปแล้วประมาณ 2-3 ปี โดยสามารถเก็บเกี่ยวผลผลิตได้ตลอดทั้งปี แต่ช่วงที่ให้ผลผลิตมากที่สุดคือช่วงเดือนพฤศจิกายน-มกราคม วิธีการเก็บเกี่ยวคือใช้กรรไกรตัดผลฝรั่งออกจากกิ่ง โดยตัดให้ขั้วผลติดอยู่กับผลด้วย
